"พี่มาร์คอย่าเล่นแบบนี้นะ...อย่าเล่นแบบนี้เด้” ร่างเล็กพูดในขณะที่คนแมนนั่งอยู่ตรงหน้า แล้วยื่นมือเข้ามาจับแก้มแล้วขยี้หัวเบาๆอย่างเอ็นดู แล้วก็เริ่มปลดกระดุมของตัวเองออกทีละเม็ด ทีละเม็ด
“พี่มาร์คของแบม เซ็กซี่ที่สุดอ่ะ”
ผมยังคงไม่รู้ตัวว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วเหลือเกิน ใจของผมมันก็เหมือนกับจะหยุดเต้นขึ้นมาเฉยๆ ใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าฉันเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆพร้อมกับจับหัวและต้นคอของผมไว้
“ใกล้แล้วๆ อีกนิดนึง โอ้ยย....ทำไมใจเต้นแบบนี้นะ” ความคิดของร่างเล็กดังไปทั่วหัว หน้าของมาร์คเริ่มใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ
“จะโดนแล้ววว”.
-
-
-
“แบมม ตื่นได้แล้วลูก” เสียงของออมม่าเริ่มเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
“ลูกคนนี้ตื่นยาก ตื่นเย็นเหลือเกิน แต่เวลาเที่ยวนี่นะ” ออมม่าบีบแขนของแบมแบมพร้อมกับเขย่า ผมเด้งตัวขึ้นจากที่นอนราวกับผีดิบฟื้นคือชีพอย่างไรอย่างนั้น เอ่ออ ออมม่าแบมยังเป็นลูกออมม่าใช่ม้ายย
“ออมม่าอ่าเขย่าแบมจนวิญญาณจะออกจากร่างแล้วน้า” ผมลูบแขนตัวเองเบาๆ ก็คนมันเจ็บหนิ ถถ
“ฉันมาเรียกตั้งหลายรอบก็ไม่ยอมตื่นซักที ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวซะยูคมารอแล้ว” แล้วออมม่าจอมขี้บ่นก็บ่นไปเรื่อยๆแม้ว่าเสียงนั้นจะเบาลงเพราะเดินออกไปไกลแต่เสียงที่ดังของป๊าก็ทำให้เธอรู้ว่าออมม่ายังคงบ่นอยู่
“เนียร์อย่าบ่นเลย ลูกตื่นก็ดีแล้วน้า น้องมี่กินอะไรมายัง” เจบีพ่อของแบมแบมพูดขึ้น เขาชอบเรียกยูคยอมว่ามี่เหลือเกิน แต่สำหรับผม ผมว่ามันก็เหมาะนะ น้องมี่...
“กินแล้วครับ เลิกเรียกผมว่ามี่ซักทีเถอะ” T-T สีหน้าของคนร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขกอ้อนวอน
“ทำไมล่ะ น่ารักจะตาย คยอมมี่ คยอมมี่ คยอมมี่” ^-^ เจบีพูดแบบนี้ไปเรื่อยๆแล้วเดินจากไป ในขณะเดียวกัน ผมรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำและเดินลงมาข้างล่าง
‘วันนี้จะเป็นวันแรก จะได้เรียนมหาลัยเดียวกับพี่มาร์คด้วย ดีใจอ่ะอิอิ แล้วเมื่อกี๊พี่มาร์คก็....แค่คิดก็เขินละ คริคริ’ ร่างเล็กยิ้มแบบแปลกๆใส่คนที่นั่งรอ..
“แบม นายคิดอะไรแบบนั้นอยู่ใช่มั้ยย.. แต่เช้าเลยนะ” แค่ผมเห็นหน้าตาของตานี่ผมก็รู้แล้วว่าตอนนี้มันกำลังคิดอะไรอยู่
“ชิ เบื่อคนรู้ทัน”
“ไปเหอะเดี๋ยวสาย วันนี้เดี๋ยวป๊าไปส่งเอง” เจบีพ่อของเขาอาสาที่จะไปส่งทั้งคู่ในวันแรก
“จะแอบไปหาใครหรือป่าว” เสียงของยูคยอมพูดแบบลอยๆจนเหมือนจะมีใครบางคนรู้ตัว
“ไม่หรอก เพราะฉันจะไปด้วย” จูเนียร์เดินออกจากบ้านมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับรู้แผนการคนชิค
“ไปกันเดี๋ยวสาย” จูเนียร์ดันเด็กๆเข้าไปในรถแล้วนั่งคู่กับเจบีข้างหน้าเพื่อไปส่งถึงมหาลัย
...การแต่งกายของนักศึกษาที่นี่ก็เหมือนมหาลัยธรรมดาทั่วไปคือ ใส่เสื้อเชิร์ตสีขาวแขนยาวข้างในตามด้วยเสื้อก๊กคอวีแขนกุดสีดำน้ำตาลข้างนอกและมีแถบขาวสองเส้นอยู่ที่บริเวณแขน ชายเสื้อและคอเสื้อที่เป็นตัววี จะเห็นเป็นขาวสลับดำแล้วก็ขอบขาว โลโก้เป็นรูปโล่สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยและมีตัวอักษรที่เขียนเอาไว้เขียนว่า JYP และ ใส่เนคไทค์สีเหลืองสลับน้ำตาลไว้ในเสื้อกั๊กสีดำน้ำตาลเป็นแบบของปี1และปี2
...แต่สิ่งที่แตกต่างคือดาวที่ปักอยู่ตรงปกคอเสื้อข้างซ้ายด้านในของเราทั้งคู่เป็นสีชมพู ซึ่งมันคือสีของคณะนิเทศ หลายคนคงสงสัยว่าผมมาอยู่คณะนี้ได้ยังไงเพราะตอนแรกฉันบอกว่าจะเอาคณะแพทย์ห้อง King ให้ได้...
แต่ก็เพราะเพื่อนตัวดีของผมนี่แหละที่หลอกล่อให้มาสอบเข้าคณะนิเทศ พร้อมให้เหตุผลว่าคณะนี้มีคนสอบเข้าน้อยกว่า ถ้าสอบเข้าแพทย์เราอาจจะไม่ติดเลย แต่ถ้าสอบเข้าคณะนี้อาจจะได้อยู่ห้อง King ก็ได้ ผมก็เลยตัดสินใจสอบเข้าแล้วหวังว่าจะได้ห้องคิงแต่ป่าวเลย ด้วยเหตุผลของสิ่งต่างๆทั้งหลาย ในวันสอบทั้งฝนตก น้ำท่วม นางเอกซีรี่ย์โดนรถชน หวยกิน แต่สิ่งที่สรุปออกมาง่ายๆคือเพราะความฉลาดที่มีน้อย ถถถ... T-T
“ยูคบอกป๊าม๊ายังว่าเรียนคณะนิเทศ”
“บอกแล้ว”
“เป็นไงมั่ง”
“ม๊าแจบอกว่าไม่เป็นไร เรียนคณะไหนก็ได้ให้ทำให้ดีที่สุด ส่วนป๊าแจ็คบอกว่าให้ตีสนิทกับผู้อำนวยการเข้าไว้แล้วก็บอกว่าเราเหมาะกับคณะนี้มากกว่าแพทย์นะ”
“ยังไง ยูคออกจะเรียนเก่ง”
“ก็เราอ่ะ ชอบการเต้น การแสดง การโฆษณา การได้อยู่กับคนเยอะๆ ให้เรียนในที่ต่างๆดีกว่านั่งเรียนในห้องแอร์ทั้งวัน มันน่าเบื่อจะตาย อย่างเราสองคนอ่ะ สอบเข้าได้ก็บุญละ อ้อแล้วก็อย่าลืมไปแก้บนด้วยนะแบม”
“เออใช่ ลืมๆ แบมก็ชอบนะ สบายใจดี เป้าหมายมีไว้พุ่งชน”
.. ตอนนี้ผมและยูคยอมมาถึงมหาวิทยาลัย JYP พวกเราเดินมาที่ตึกอำนวยการ เพื่อรวมตัวนักศึกษาปี1คนอื่นๆ ระหว่างทางรู้สึกว่ามีคนหันมามองพวกเราสองคนอยู่เรื่อยๆ แต่เราทั้งคู่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก สงสัยว่าผมคงหล่อและน่ารักกว่าคนทั่วไปอ่ะเนอะ คิคิ ก็ไม่รู้สินะ ก็คนมันหน้าตาดีนี่นา ช่วยไม่ได้
เราสองคนเดินมาถึงหน้าตึกอำนวยการที่ล้อมไปด้วยนักศึกษาคณะต่างๆมากมาย ข้างหน้าแถวก็จะมีป้ายคณะตั้งอยู่ผมกับยูคพยายามมองหาคนที่มีดาวสีชมพูเหมือนกัน
“นั่นไง” ผมสะกิดแขนคนที่อยู่ข้างๆแล้วเดินไปตามทาง
“ถึงสักที กว่าจะหาเจอ”
“น้องสองคนมาใหม่เซ็นต์ชื่อด้านหน้าด้วยค้าบบ” รุ่นพี่หน้าหล่อใส่เสื้อเชิร์ตสีขาวแขนยาวผูกเนคไทสีเหลืองสลับน้ำตาล ที่อยู่ข้างหน้าแถวตะโกนบอกเราทั้งคู่ ผมกับยูคยอมจึงเดินไปข้างหน้าระหว่างเดินไป ก็สังเกตอะไรบางอย่าง ...
ผู้ชาย ..
ผู้ชาย ...
ผู้ชาย .... แล้วก็ผู้ชาย ทำไมมีแต่ผู้ชายล่ะ เลือดแบมจิพุ่ง (*- -) //เก็บอาการหน่อยลูกก
ผมเช็นต์ชื่อในกระดาษกับหยิบป้ายชื่อมาแขวนคอแล้วถามรุ่นพี่
“ทำไมถึงมีแต่ผู้ชายล่ะครับ”
“นี่มันชายล้วนนะแบม” ผมถึงกับตกใจว่ารุ่นพี่รู้จักชื่อผมได้ยังไงแต่เมื่อมองดีๆผมเพิ่งจะใส่ป้ายชื่อไปนี่นา
“พี่ชื่อจุนโฮนะ มีอะไรปรึกษาได้ตลอด ส่วนป้ายชื่อใส่เอาไว้นะ ตอนมาเรียนจะใช้อีกอันนึงที่จะออกในเย็นวันนี้” พี่หน้าหล่อคนนั้นพูดขึ้น
“ขอบคุณครับพี่จุนโฮ” ผมกับยูคยอมพูดพร้อมกันแล้วเดินกลับไปต่อแถวเหมือนเดิม ทุกสายตาจับจ้องมาที่เราสองคนเสมอ พวกนายมันก็แค่ปลวกเป็ดจะมาสู้อะไรกับว่าที่สามีพี่มาร์ค ไม่รู้ใครจะเมะแต่เดาว่าผมเนี่ยแหละ อุว้าฮ่าๆๆ..
...เราทั้งคู่ก็ไม่กล้าปริปากคุยกับใครหรือไม่มีใครกล้าคุยกับพวกเรากันแน่นะ(?)
“นี่ๆ ทุกคน” เมื่อเสียงของพี่จุนโฮดังขึ้นเด็กทั้งคณะก็เงียบเสียงลงกะทันหัน
“มาจับพี่รหัสกันเถอะ แต่ว่าจะมี 1 คนที่ไม่มีพี่รหัสเพราะว่ามันไม่พออ่ะ” เสียงเริ่มฮือฮา นักศึกษาต่างตื่นเต้นกับการที่จะได้มีพี่รหัสเป็นตัวเป็นตนซึ่งแน่นอนว่าคนที่ยืนอยู่คนสุดท้ายจะไม่มีพี่รหัสนั่นคือผมเอง คนหล่อเซ็ง พี่จุนโฮถือลูกกุญแจใส่กล่องมาพร้อมให้เพื่อนๆในคณะตั้งแต่คนแรกยาวมาถึงยูคยอมหยิบแล้วหาแม่กุญแจไข หากไขของใครได้คนนั้นคือพี่รหัส แต่สิ่งที่น่าทึ่งมากกว่าคือ...
“น้องแบมไม่มีพี่รหัสใช่มั้ย”
“ครับ” ผมตอบกลับพี่จุนโฮด้วยเสียงน่ารักๆ ก็แบบคนมันต้องอ้อนนิดนึง ถามตัวเองอยู่ว่าเพื่ออะไร
“พี่เป็นพี่รหัสของน้องด้วยก็ได้นะไม่งั้นมันจะไม่ยุติธรรม” ทำไมคนๆนี้ถึงได้มีอะไรแปลกๆนักนะ ทันทีที่ผมจะตอบกลับเพื่อนตัวดีของฉันก็วิ่งมา
“หาพี่รหัสไม่เจออ่ะแบมทำไงดี” แต่เมื่อเห็นแม่กุญแจในมือของรุ่นพี่ยูคยอมก็ตัดสินใจที่จะไขมันทันทีโดยไม่ลังเล
“ก๊อก” เสียงที่ทำให้เราทั้งคู่มองหน้ากัน
“งั้นยูคกับแบมก็เป็นน้องรหัสของพี่นะ”
“ครับ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกัน การได้มีพี่รหัสหล่อๆแบบนี้ก็ดีนะแต่ถ้าเป็นพี่มาร์คมันจะดีกว่านี้สินะ ฮือออ......T T
นักศึกษาแต่ละคนต้องแยกย้ายไปที่คณะเพื่อเข้าสู่พิธีรับน้อง ระหว่างทางผมกับยูคยอมก็คุยกันอย่างสนุกสนานทำให้ไม่ได้ดูทางแล้วชนกับใครคนหนึ่งเข้า..
“แบม ระวัง” ตุ๊บบบ
“โอ้ยเจ็บอ่ะ” ผมเอามือไปด้านหลังเพื่อจะดันตัวเองขึ้นแต่...เหมือนผมจะจับอะไรบางอย่างผิดไป และผมก็เริ่มจะรู้แล้วว่าผมจับอะไร
“แบมม” คนร่างสูงอยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นเพราะอายแทนเพื่อนของเขา มือของผู้ชายคนที่มือของผมจับตรงนั้นของเขาอยู่ก็มาจับแขนผม
“หยุดจับ แล้วลุกขึ้นไปได้ละ” ผมรีบลุกขึ้นและหันไปข้างหลังก็พบกับ สามีของช้านนนนนนน !!!! //เก็บอาการไว้ลูกก อึ๊บบ อึ๊บบ
เอิ่มเดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้ผมจับอะไรไปอ่ะ ผมมองหน้าพี่มาร์คที่กำลังเอามือกุมเป้าตัวเอง แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเอง.... กรี๊ดดดดดอยากจะตะโกนให้โลกรู้กำไรชีวิตสุดๆ ผมยกมือสั่นๆขึ้นมามองอยากจะเอามันมาแนบหน้าเหลือเกินแต่ก็กลัวพี่มาร์คจะหาว่าผมเป็นพวกโรคจิต ( -.,-)
“มองอะไร” เสียงคนที่นั่งอยู่กับพื้นพูด สีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ หึยยยย ดูดิขนาดหน้าโกรธแบบนี้ยังหล่อเลยอ่ะ หน้านี่ใสปิ๊งจมูกก็โด๊งโด่ง ริมฝีปากได้รูปน่าจูบสุดๆ
....บรรยากาศบวกกับความคิดของแบมแบมในตอนนี้เหมือนมีมนต์สะกดอะไรบางอย่าง ที่ทำให้ผมลงไปนั่งที่ตักของพี่มาร์คพร้อมกับประทับริมฝีปากลงไป อย่างลืมตัว
กรี๊ดดด/ว้าววว/เห้ยยยย/พี่มาร์คเสียความบริสุทธิ์!!
เสียงฮือฮาของสัตว์โลกและคนรอบข้างต่างตกใจกับการกระทำที่ใจกล้าเกินไปของผู้ชายร่างเล็กคนนั้น บางกลุ่มก็อิจฉา บางกลุ่มก็ด่าในใจ บางกลุ่มก็ชม (ชมแบมทำไม)
“ไอ้แบมบ้า” ยูคยอมเหมือนจะปล่อยให้เพื่อนมีความสุขกับริมฝีปากนุ่มนิ่มของมาร์คไม่ได้นาน จึงเข้าไปจับไหล่ของแบมให้ลุกขึ้นแล้วเขย่าตัวสองสามทีเพื่อเรียกสติให้กลับมา
“ยูค พอแล้ว แบม จะ อ้วก” ผมห้ามยูคให้หยุดเหย่าร่างของผมก่อนที่หัวจะหลุดออกมาจากคอ ผมหันหลังกลับไปมองพี่มาร์ค เขาลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือเช็ดที่ริมฝีปากที่ผมจู่โจมไปเมื่อไม่นาน หน้าตาของเขาไม่ค่อยสบอารมณ์อย่างแรงแต่เขาก็ไม่พูดอะไร แล้วเดินฝ่าฝูงชนออกไป
“อ้าวๆ เลิฟซีนจบแล้วสลายได้ ไปที่คณะได้แล้ว” รุ่นพี่คนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ตะโกนบอกนักศึกษาที่มายืนมุงเป็นสักขีพยานให้แยกย้ายออกไป
“ดีมากครับคุณน้องรหัส” อยู่ๆก็มีผู้ชายที่ไม่น่าใช่ผู้ชายมาบอกว่าผมเป็นน้องรหัส
“เอ่ออ...คือพี่เป็นใครครับ ผมน้องรหัสพี่จุนโฮนะครับ”
“จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย พี่ชื่อโจควอนเป็นรุ่นพี่ปี 3คณะนิเทศ ห้องคิง ว่าแล้วเชียวโดนพี่จุนโฮหลอกแล้วล่ะ” ควอนพูดพร้อมกับส่ายหน้า
“หลอกหรอ หลอกยังไงอ่ะ” นี่ผมไม่เข้าใจสัจธรรมอันถ่องแท้ของชีวิตจริงๆนะ
“จริงอยู่ที่พี่รหัสไม่พอ เลยเอาปีสามมาแจมด้วยซึ่งนั่นคือพี่ และน้องแบมคือน้องรหัสของพี่ Are you understand?” อธิบายจบก็รัวอิ๊งใส่ซะงั้น
“เน” ผมตอบกลับไปด้วยภาษาเกาหลีอย่างมั่นหน้า
“เอ่ออ เราไปที่คณะกันเถอะแถวนี้อากาศไม่ค่อยดีเลย” ถ้าไม่รีบออกไปจากตรงนั้นผมอาจจะโดนพูดถึงไปอีกนาน พี่ควอนเดินนำทางไปที่คณะของพวกเรา โดยยูคยอมที่เดินอยู่ท้ายแถว
“แบม แกทำงั้นไปได้ยังไงอ่ะ คนเยอะแยะ” ผมหันกลับไปมองร่างสูงแล้วตอบไปว่า
“ใจสั่งมา แหะๆ” (*3*) (-_-)
“ใจสั่งมาหรือความชั่วร้ายสั่งมา” ผมแสนจะเบื่อคนรู้ทันอย่างคนข้างหลังผมจริงๆ
“มันก็เหมือนๆกันนั่นแหละน่า เมื่อมีโอกาสก็ต้องไขว้คว้าให้คุ้มไม่ใช่หรอ ยูครู้ป่าวว่าปากพี่มาร์คนิ่มมากๆเลยอ่ะ แล้วที่แบมจับอ่ะก็...” ผมยังพูดไม่ทันจบมือของคนที่อยู่ข้างหลังก็รีบมาปิดปากผมไว้เหมือนรู้ว่าผมจะรู้อะไร ..
..เมื่อผมเงียบลง ยูคยอมก็ค่อยๆปล่อยมือออก แต่มันก็แรงเกินไปจนหน้าผมเป็นรอยมือ แต่ก็ช่างมันเถอะ แค่คิดก็ฟินไปสามชาติละ เขินอ่ะ >///<
“เลิกทำหน้าแบบนี้ทีได้ป้ะ แบมไม่ได้ไปข่มขืนพี่มาร์คตรงนั้นซักหน่อย ถ้าทำเมื่อไหร่ค่อยมามองแบบนี้ You know” แบมแบมพูดอังกฤษบ้าง แต่หน้ายูคยอมก็ยิ่งป่วยไปกว่าเดิม
“นี่สามคนนั้นอ่ะเดินมาเร็วๆหน่อยเดี๋ยวก็หลงหรอก” พี่จุนโฮตะโกนบอก พวกเราจึงรีบวิ่งตามไป สองข้างทางระหว่างที่เดินไป
….สถานที่นั้นเหมือนเราหลุดออกมาอยู่อีกมิติจากตึกสไตล์ไทย สวนสไตล์ฝรั่งเศสค่อยๆเปลี่ยนเป็นป่าที่ดูน่ากลัว มีกระท่อมไม้ขนาดปานกลางและเมื่อเดินมาเรื่อยๆ มีตึกสีขาวประมาณ 7 ชั้นซึ่งเป็นของคณะแพทย์ ถัดออกไปอีกเป็นตึกชั้นเดียวมีแปลงผักล้อมรอบนับร้อยแปลงของคณะเกษตร และลึกลงไปอีกเป็นห้องกระจกอีกสองตึกขึ้นเป็นตึกของคณะนิเทศนี่เอง เมื่อเดินไปอีกก็เป็นหอพักของนักศึกษาที่ต้องคอยเฝ้าดูแลงานต่างๆของทางมหาลัยอย่างใกล้ชิด พี่ของผมเองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน ถึงว่าสิบรรยากาศดีขนาดนี้นี่เองที่ทำให้พี่ชายผมไม่ค่อยกลับบ้าน มองดีๆที่นี่ก็ไม่ต่างจากรีสอร์ตกลางป่าเท่าไหร่ แถมยังมีอะไรที่น่าสนใจมากมาย น้องใหม่คณะนิเทศทุกคนนั่งอยู่ใต้ต้นไม้บริเวณที่พักนักศึกษา
“ทุกคนฟังทางนี้ พี่ชื่อจุนโฮ เป็นประธานคณะ ยินดีต้อนรับนะ อย่างแรกเรามาแนะนำตัวกันก่อน” ทุกคนแนะนำตัวมาเรื่อยๆจนถึงตาผมแล้วทุกคนต่างสนใจเป็นพิเศษ ดังนั้นต้องทำออกมาให้ดี
”สวัสดีครับ ฃื่อแบมแบม เรียกสั้นสั้นว่าแบม เรียกยาวๆว่าแบมมมมมมแบมมมม.... ผมชอบพี่มาร์คครับ” พอผมพูดจบก็มีเสียงฮือฮาสัตว์โลกอีกครั้ง
“ดีมาก สมกับเป็นสมบัติของคณะเรา ให้มันได้อย่างงี้ดิ สู้ๆ”
“ขอบคุณครับพี่ควอน”
“เด็กคณะเราต้องแจ่มแบบนี้แหละ หึหึ นี่แหละสิ่งที่ควอนwant มาก” ไม่เข้าใจว่าพี่จะพูดอิ๊งมาเพื่อ?
แล้วทุกคนเริ่มแยกย้ายออกไปทำภารกิจที่พี่รหัสให้ ผมจึงเดินมาอยู่กับพี่ควอนแค่สองคน
“เอาล่ะ ตอนนี้แบมเป็นน้องรหัสของพี่ภารกิจแรกที่พี่อยากให้ทำคือ...” โจควอนหยุดเพื่อให้บรรยากาศดูตื่นเต้น
“คืออะไร ครับ พูดเร็วๆสิ” ผมถามด้วยความตื่นเต้นเหมือนกำลังนั่งลุ้นเวลาหวยออกกับป๊า
"หลอกผีมาร์คแล้วอัดคลิปส่งมาให้พี่ พี่จะประจานมัน”
“ห๊ะ!!” ผมอุทานออกไปด้วยความดีใจ ขอย้ำอีกทีว่าดีใจ
"แต่มันก็ง่ายไป ต้องมีอะไรมาเซอร์ไพรซ์ในคลิปนั้นด้วย ก่อนวันรับน้องใหญ่ของคณะ Are you understand?"
กรี๊ดดดด แบมจิม้ายยยทน...
-----to be continued----